Page 33 - คู่มือการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการพยาธิว
P. 33
ิ
คู่มือส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการพยาธิวทยา
2.2.2 การทดสอบจ านวน 1-5 รายการ ใช้ lithium heparin blood หรือ clotted blood ปริมาตร
2 mL ยกเว้นมการทดสอบดังต่อไปน ได้แก Osmolality, PCT, Interlukin-6, ALP heat
่
ี
ี้
stable, ALP heat labile ใช้เลือดปริมาตร 4 mL
2.2.3 การทดสอบจ านวน 6-15 รายการ ใช้ lithium heparin blood หรอ clotted blood
ื
ปริมาตร 4 mL
2.2.4 การทดสอบ Vitamin A, Vitamin E, 25-OH Vitamin D2/D3, Quad test และ Protein
electrophoresis ใช้เลือดชนิด clotted blood เท่านั้น ปริมาตรอย่างน้อย 6 mL
2.2.5 การทดสอบ Vitamin B1, HbA1c และ Ammonia ใช้ EDTA blood ปรมาตร 2 - 3 mL
ิ
และการทดสอบ Metanephrine ใช้ EDTA blood ปริมาตร 3 mL
้
2.2.6 การทดสอบ Ammonia และ Lactate ให้แช่สิ่งส่งตรวจในนาแข็งระหว่างนาส่ง และส่งตรวจ
ทันที
3. วิธีกำรเก็บและส่งสิ่งส่งตรวจ
3.1 การเจาะเก็บเลือด
3.1.1 เช็ดผิวหนังบริเวณที่จะเจาะเลือดด้วย 2% chlorhexidine in 70% alcohol เนื่องจากการใช้
ิ
ั้
้
ื่
้
นายาฆ่าเชื้ออนจะท าให้เกดการปนเปื้อนของสารเคมีที่มอยู่ในนายาฆ่าเชื้อนนได้ เช่น การใช้
ี
โปตัสเซยมไอโอไดนท าความสะอาดท าให้ค่าของ Potassium และ Chloride ผิดจากความ
ี
์
จริง
ิ
ิ
3.1.2 หลีกเลี่ยงการเกด venous stasis จากการรดแขนขณะเจาะเลือดนานเกน 1 นาที ซงท าให้
ึ่
ั
สารเคมีบางตัวสูงกว่าความเป็นจริง เช่น Protein, Calcium, Lactic acid
3.1.3 หลีกเลี่ยงการเจาะเลือดจากแขนที่รับน้ าเกลือหรือสารน้ าต่าง ๆ เพราะอาจมีส่วนประกอบของ
ื่
Glucose และ Electrolyte ท าให้ผลการตรวจมค่าสูงกว่าความเป็นจรง เนองจากการ
ี
ิ
ื่
ปนเปื้อนของน้ าเกลือ ซึ่งผู้ป่วยก าลังได้รับ นอกจากนั้นยังไปเจือจางเลือดท าให้ตรวจสารอนได้
ค่าต่ ากว่าความเป็นจริง
3.1.4 หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ท าให้เม็ดเลือดแดงแตก เพราะจะมีผลกระทบต่อค่าของสารเคมีบางชนิด เช่น
Potassium, LDH, AST (SGOT), Inorganic Phosphate, Folate, D-bilirubin
ิ
3.1.5 การทดสอบ D-dimer(Sodium citrate) เจาะเลือดให้ได้ตามปรมาตรที่ระบุข้างหลอดเลือด
และระมัดระวังการเกิด Clot
3.2 การเก็บปัสสาวะ
3.2.1 การเกบปัสสาวะแบบสุ่ม (random หรอ spot urine) ให้ผู้ป่วยถ่ายปัสสาวะเป็น 3 ช่วง
็
ื
ปัสสาวะที่ถ่ายช่วงแรกและช่วงหลังให้ทิ้งไป เก็บเฉพาะปัสสาวะที่ถ่ายช่วงกลาง (midstream
urine) ประมาณ 10 - 50 mL ใส่ภาชนะส าหรับใส่ปัสสาวะปิดฝาให้สนิท
3.2.2 การเก็บปัสสาวะ 24 ชม. (24 hr urine) เริ่มเก็บปัสสาวะโดยให้ผู้ป่วยถ่ายปัสสาวะทิ้งก่อนเริ่ม
เก็บ บันทึกเวลาไว้ หลังจากนั้นจึงเก็บปัสสาวะที่ถ่ายครั้งต่อ ๆ ไป ในขวดเก็บปัสสาวะที่ใส่สาร
รักษาสภาพ หรือ preservative ส าหรับรักษาสภาพสิ่งส่งตรวจไม่ให้เสื่อมสภาพ (การทดสอบ
ั
ั
แต่ละชนดอาจใส่สารรกษาสภาพแตกต่างกน) เกบปัสสาวะทุกครั้งจนครบ 24 ชม. ปิดฝาให้
ิ
็
สนท โดยให้ปัสสาวะครงสุดท้ายคือเวลาเดียวกนกบเวลาที่เรมถ่ายทิ้งครงแรก เมอเกบครบ
็
ื่
ั
ิ
ิ่
ั้
ั
ั้
เวลาแล้วให้รีบน าส่งหน่วยจัดเก็บและบริหารจัดการสิ่งส่งตรวจ ติดต่อขอรับขวดเก็บปัสสาวะ
ได้ที่หน่วยรับสิ่งส่งตรวจ สาขาวิชาพยาธิวิทยา
~ 30 ~